พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อสมบุญ ปิยธมฺโม - Doem Bang Nang Buat District

5/5 based on 1 reviews

Contact พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อสมบุญ ปิยธมฺโม

Address :

VX54+287 พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อสมบุญ ปิยธมฺโม Pa Sakae, Doem Bang Nang Buat District, Suphan Buri 72120, Thailand

Phone : 📞 +8999
Postal code : 72120
Website : http://www.facebook.com/Parluangporsombun/
Categories :

VX54+287 พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อสมบุญ ปิยธมฺโม Pa Sakae, Doem Bang Nang Buat District, Suphan Buri 72120, Thailand
แก้วกล้า (Brave Heart) on Google

พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อสมบุญ ปิยธมฺโม วัดลำพัญบอง หลวงพ่อสมบุญ ปิยธมโม เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พุทธศักราช 2465 ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ปีจอ เป็นคนไทย เชื้อสายลาว ภูมิลำเนาอยู่ที่บ้าน หนองอีเงิน ต.ห้วยขมิ้น อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี (ปัจจุบันอยู่ในเขต อ.ด่านช้าง) โยมบิดาชื่อ คำ โยมมารดาชื่อ ถิน นามสกุล ชมชื่น อาชีพทำไร่ ทำนา มีพี่น้องทั้งสิ้น 6 คน หลวงพ่อเป็นบุตรคนโต มีน้องชายอีก 2 คน และน้องสาวอีก 3 คน ในวัยเด็กได้เรียนหนังสือกับพระที่วัดวังกุ่ม ต.ห้วยขมิ้น เป็นระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 1 ปี เหตุที่ไม่ได้เรียนหนังสือคือ สืบเนื่องจากท่านมีภาระต้องแบ่งเบา จึงต้องละทิ้งการเรียนเพื่อช่วยครอบครัวประกอบอาชีพในฐานะพี่ชายคนโต ล่วงถึงพุทธศักราช 2485 พระเดชพระคุณหลวงพ่อมีอายุครบ 20 ปี จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทตามประเพณีที่ วัดป่าสะแก มี พระครูวิสิทธิ์สิทธิการ (อาจารย์เพชร) เป็นพระอุปัชฌาย์ จำพรรษาที่วัดป่าสะแกประมาณ 2 พรรษา จึงย้ายไปจำพรรษาที่วัดต่างๆ ในละแวกนั้นอีก 4 สำนัก คือ วัดดอนมะเกลือ 2 พรรษา วัดวังคัน 3 พรรษา วัดวังกุ่ม 2 พรรษา และวัดดอนเก้าอีก 2 พรรษา จากนั้นจึงกลับมารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดอนมะเกลือเมื่อปี 2498 รวมระยะเวลาในการจาริกจำพรรษายังอารามต่างๆ ประมาณ 13 พรรษาเศษ หลวงพ่อสมบุญ ปิยธมโม วัดลำพันบอง ต.หนองโพธิ์ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี ชีวิตของหลวงพ่อดูท่าจะรุ่งเรืองในร่มเงาของผ้ากาสาวพัสตร์ หากแต่เป็นด้วยภาระทางครอบครัว เมื่อเห็นว่าท่านบวชนานจนสมควรแก่เวลา ญาติพี่น้องจึงขอร้องให้ลาสิกขา หลังจากครองตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดอนมะเกลือได้เพียงแค่ 2 ปี เนื่องจากโยมบิดาและโยมมารดาเริ่มเข้าวัยชรา ทำให้ท่านผู้ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตของตระกูลมีความจำเป็นต้องลาสิกขาออกมาเพื่อดูแลครอบครัว ล่วงเข้าปีพุทธศักราช 2499 หลวงพ่อสมบุญ จึงจำต้องลาสิกขาออกมาสู่เพศฆราวาส เมื่อลาสิกขาออกมาโยมมารดาของท่านเกรงว่าลูกชายจะหนีไปบวชอีกครั้ง จึงจัดการให้ท่านแต่งงานกับ นางสาวสุวรรณ สะราคำ ผู้ซึ่งเป็นลูกสาวนายดิน-นางแก้ว สะราคำ ชาวบ้านดอนมะเกลือ ต.ป่าสะแก เมื่อแต่งงานมีครอบครัวแล้วได้ประกอบอาชีพทำไร่ทำนา ช่วยบิดา-มารดาอยู่ไม่นาน จึงย้ายนิวาสสถานมาเปิดกิจการขายของที่บ้านทับละคร เขต อ.ด่านช้าง ครั้นเมื่อย้ายมาอยู่บ้านทับละครได้ประมาณ 6 เดือน นางสุวรรณผู้เป็นภรรยาได้ถึงแก่กรรม เนื่องจากไข้ป่าที่แทรกซ้อนมาจากการคลอดบุตร เมื่อภรรยาเสียชีวิตท่านจึงยกลูกสาววัยแบเบาะให้ญาติฝ่ายภรรยาอุปการะ แล้วหันหลังให้โลกวิสัย ตั้งใจบวชจนตายคาผ้าเหลือง ส่วนลูกสาวคนเดียวของท่านเมื่อลืมตาดูโลกอยู่ได้ประมาณ 4 เดือนก็เสียชีวิต ทำให้ท่านหมดสิ้นซึ่งห่วงร้อยรัดตัดสิ้นในทางโลกโดยสิ้นเชิง หลวงพ่อจึงหวนกลับสู่เพศบรรพชิตอีกครั้งหลังจากที่ลาสิกขาออกไปได้เพียงแค่ 1 ปี กับ 3 เดือน ต้นปีพุทธศักราช 2501 เสร็จสิ้นงานฌาปนกิจศพนางสุวรรณผู้เป็นภรรยา พระเดชพระคุณหลวงพ่อจึงเข้าสู่พัทธสีมาอีกครั้ง มี พระอธิการกัณหา* วัดป่าสะแก เป็นพระอุปัชฌาย์ (*ภายหลังได้รับสมณศักดิ์ที่ พระครูสุขุมวิหารการ เจ้าคณะตำบลป่าสะแก) ภายหลังจากอุปสมบทแล้วได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดวังคอไห 1 พรรษา ย้ายไปวัดดอนมะเกลือ 2 พรรษา แล้วย้ายกลับมาอยู่วัดป่าสะแกอีก 4 พรรษา จนล่วงถึงพุทธศักราช 2507 (หลังจากอุปสมบทได้ 7 พรรษา) จึงรับอาราธนามารักษาการเจ้าอาวาส วัดลำพันบอง เขต อ.หนองหญ้าไซ จนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2511 รับภาระดูแลปกครอง วัดลำพันบอง จนรุ่งเรืองตราบจนปัจจุบัน นับได้ 49 ปีบริบูรณ์ คชสิงห์ รุ่นแรก สร้าง 399 ตัว จารึกหมายเลขและนามย่อ ลบ. หมายถึง หลวงพ่อสมบุญ ปลุกเสกวันที่ 28 เม.ษ. 2556 แหวนหน้าโล่รุ่นสอง หน้าเล็ก จารึก ลบ. ๘๓ เนื่องจากแหวนรุ่นแรกโด่งดังมาก่อนหน้า จึงกลายเป็นของดีที่หวงแหนในท้องถิ่น (คนส่วนใหญ่มักจะนำขึ้นหิ้งเก็บเงียบกันหมด) แหวนรุ่นสองจึงถือเป็นแหวนรุ่นประสบการณ์ เพราะคนส่วนใหญ่ถือว่าเป็น “รุ่นใช้” ส่วนรุ่นแรกนั้นยกไว้เป็น “รุ่นโชว์” แหวนหน้าโล่รุ่นสอง หน้าเล็ก จารึก ลบ. ๘๓ เนื่องจากแหวนรุ่นแรกโด่งดังมาก่อนหน้า จึงกลายเป็นของดีที่หวงแหนในท้องถิ่น (คนส่วนใหญ่มักจะนำขึ้นหิ้งเก็บเงียบกันหมด) แหวนรุ่นสองจึงถือเป็นแหวนรุ่นประสบการณ์ เพราะคนส่วนใหญ่ถือว่าเป็น “รุ่นใช้” ส่วนรุ่นแรกนั้นยกไว้เป็น “รุ่นโชว์”
Luang Pho Somboon Piyathamo Museum, Lam Phan Bong Temple Reverend Father Somboon Piyathommo was born on May 3, 1922 on the first lunar month, 6 years. In the area of ​​Dan Chang district), father's name, Kham Yom, mother's name, Thin Surname Chom Chuen, a farming career with 6 brothers and sisters. In childhood, I studied with a monk at Wat Wang Kum, Huay Khamin sub-district for a short period of 1 year. Because you have a burden to share Therefore had to abandon school to help the family make a career as the eldest brother Until the year 1942, Phra Dech Phra Khun Luang Por turned 20 years old, so he entered the ordination ceremony according to tradition at Wat Pa Sakae. (Ajarn Phet) is the preceptor. Remembering the Buddhist Lent at Wat Pa Sakae for about 2 years, then moved to various temples. In that area, the other 4 schools are Wat Don Makham 2, Wat Wang Khan 3, Wat Wang Kum 2, and Wat Don Kao for 2 years, and then returned to be the abbot of Wat Don Makham in 1955, including the period of pilgrimage. Also various monasteries about 13 years old Luang Pho Somboon Piyathammo, Lam Phan Bong Temple, Nong Pho Subdistrict, Nong Ya Sai District, Suphanburi Province, Luang Por's life seems to flourish in the shade of the Kasawat cloth. But with a family burden When he saw that he had been ordained for a long time Relatives therefore asked the lassikha After being crowned Abbot of Don Makham Temple for just 2 years Because the father and mother began to enter old age Causing the elder brother of the clan to come out to take care of the family After entering the year 1956, Luang Pho Somboon had to take out into the secular sex. When the lassik came out, his mother was afraid that his son would run away to be ordained again. Therefore arranged for you to marry Ms. Suwan Sarakham, who is the daughter of Mr. Din - Mrs Kaew Sarakham, Don Makham villager in Pa Sakae Sub-district. Helping parents not long ago. Therefore moved the house to open a business for sale at Thap Drama, Dan Chang District, when moving to Ban Thap Drama for about 6 months. Due to the malaria complications from childbirth When his wife died, he gave her baby daughter to the wife's supportive relative. And turn away from the world Intended to be ordained until death in the yellow cloth His only daughter, when she opened her eyes to see the world for about 4 months, died. Causing you to completely cut off all the loops of the world Luang Pho then returned to Banchitkan sex again after Lassikha had been out for just 1 year and 3 months. In early 1958, the funeral of Mrs. Suwan, who was his wife. Phra Dech Phrakhun Luang Por has therefore entered Phatthasima again with his superior Kanha * Wat Pa Sakae as preceptor. (* After receiving the title at Provost Providence Temple Primate of Pa Sakae District) After the ordination and moved to Wat Wang Kho Hai for 1 year, moved to Wat Don Makae for 2 years, then moved back to Wat Pa Sakae for another 4 years until the year 1964 (after the ordination for 7 years), therefore, received the ordination to act. Abbot of Wat Lam Phan Bong, Khet Nong Ya Sai District, until he was officially appointed as the abbot on August 3, 1968, took care of the administration of Wat Lam Phan Bong until it prospered until the present for 49 years. The first version of Kochasingha created 399 inscriptions, numbers and abbreviations minus. Referring to Luang Pho Somboon chanting on April 28, 2013, a small double-sided shield face ring, inscription min. 83 because the first ring was famous before. Therefore becoming a treasure that is cherished in the local (Most people tend to put up the shelf to keep all the silence) Ring is the second generation of experience. Because most people consider it a "used version" while the first version was raised as a "show version", a small two-sided shield face ring, the inscription minus .83 because the first version was famous before. Therefore becoming a treasure that is cherished in the local (Most people tend to put up the shelf to keep all the silence) Ring is the second generation of the experience. Because most people consider it a "used model" while the first version is quoted as "show model".

Write some of your reviews for the company พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อสมบุญ ปิยธมฺโม

Your reviews will be very helpful to other customers in finding and evaluating information

Rating *
Your review *

(Minimum 30 characters)

Your name *

Nearby places in the field of Education center,

Nearby places พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อสมบุญ ปิยธมฺโม