บัณฑิตวิทยาลัย มมร - Phutthamonthon District
5/5
★
based on 3 reviews
Contact บัณฑิตวิทยาลัย มมร
| Address : | บัณฑิตวิทยาลัย มมร 248 ม.1 ถ.ศาลายา - นครชัยศรี Salaya, Phutthamonthon District, Nakhon Pathom 73170, Thailand |
||||||||||||||
| Phone : | 📞 + | ||||||||||||||
| Postal code : | 73170 | ||||||||||||||
| Opening hours : |
|
||||||||||||||
| Categories : |
|
ร
|
รังสี ปี่แก้ว on Google
★ ★ ★ ★ ★ บัณฑิตวิทยาลัย มมร
มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นสถาบันการศึกษาของสงฆ์ ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ของประเทศไทย ที่จัดการศึกษาในรูปแบบมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา เป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกที่เริ่มประยุกต์หลักพระพุทธศาสนาให้เข้ากับสังคมสมัยใหม่ โดยมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ หนึ่งในสองแห่งของประเทศไทย
ประวัติความเป็นมา
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ซึ่งเป็นพระน้องยาเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระดำริจัดตั้ง "มหามกุฏราชวิทยาลัย" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นภายใน วัดบวรนิเวศวิหาร โดยวิธีจัดการศึกษาแบบสมัยใหม่ มีลักษณะแตกต่างจากการเล่าเรียนภาษาบาลีตามประเพณีแบบเดิม ในขณะเดียวกัน ก็นำเอาวิธีวัดผลแบบข้อเขียนมาใช้เป็นแห่งแรกของประเทศไทยด้วย
หลังจากที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ทรงก่อตั้งสถาบันการศึกษานี้ขึ้นแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็มีพระราชดำรัสให้พระองค์ทรงช่วยปรับปรุงโรงเรียนสอนภาษาบาลี ชื่อ "มหาธาตุวิทยาลัย" ภายในวัดมหาธาตุ ขึ้นเป็น "มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย" เพื่อจัดการให้คณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกายได้มีสถาบันการศึกษาชั้นสูงในลักษณะเดียวกัน ควบคู่ไปกับมหามกุฏราชวิทยาลัย ซึ่งสมัยนั้นเป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูง และส่วนมากยังจำกัดอยู่แต่คณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต ต่อมา ทั้ง มหามกุฏราชวิทยาลัยและมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้ปิดตายลงเพราะประสบปัญหาหลายประการด้วยกัน นับเป็นเวลาหลายสิบปี
จนกระทั่ง ท่านอาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพได้พยายามรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ จนประสบผลสำเร็จ เมื่อ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์และคณะสงฆ์วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ให้การอุปถัมภ์ โดยได้ทำการประกาศรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่เมื่อ พ.ศ. 2488 ตามมาด้วย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งประกาศรื้อฟื้นกิจการในปี พ.ศ. 2490 อาจารย์สุชีพ ได้แถลงว่า สาเหตุที่ต้องมีมหาวิทยาลัยสงฆ์ก็เพราะคณะสงฆ์จำเป็นต้องผลิตบุคลากรที่รู้ทันวิชาการสมัยใหม่ มิฉะนั้น คณะสงฆ์จะไม่สามารถสั่งสอนแนะนำชาวบ้านได้ และการสื่อสารกันก็จะเกิดความไม่เข้าใจ เพราะชาวบ้านศึกษาด้านคดีโลก ส่วนพระสงฆ์ศึกษาด้านคดีธรรม ท่านจึงต่อสู้เพื่อให้ได้มหาวิทยาลัยสงฆ์มาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุด มหามกุฏราชวิทยาลัย และ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยก็ได้รับการรื้อฟื้นมาอีกครั้งหนึ่ง จนได้รับการยกฐานะให้เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐในปี พ.ศ. 2540 ในสมัยนายสุขวิช รังสิตพลเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เสนอให้รัฐสภาตรา ตามความในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ. 2540 อันเป็นผลพวงมาจากการทุ่มเทและความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งของท่านฯ อย่างแท้จริง เหตุผลนี้ ทำให้คนรุ่นหลังกล่าวยกย่อง "อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ" ว่าเป็น บิดาแห่งมหาวิทยาลัยสงฆ์ไทย
เพื่อรำลึกถึงคุณูปการของท่านและสืบสานเจตนารมณ์ของท่าน คณะศิษยานุศิษย์ได้ร่วมกันก่อตั้งมูลนิธิปุญญานุภาพ ขึ้นโดยความเห็นชอบของท่านเพื่อให้ทุนสนับสนุนนักศึกษาหรือครูอาจารย์ผู้ค้นคว้าวิจัยทางพระพุทธศาสนา ณ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย และดำเนินกิจการต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ได้ย้ายที่ตั้งของมหาวิทยาลัยไปยังตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐมแล้ว
 Graduate School, Mahidol University
Mahamakut Buddhist University Is an educational institution of monks The Dharma Sect Division of Thailand provides a Buddhist university education. It was the first educational institution that began to apply Buddhism principles to modern society. by Mahamakut Wittayalai University a clergy university One of two places in Thailand
History
Somdej Phra Maha Monastery Krom Phraya Wachirayanwarorot Which is her sister in King Chulalongkorn has established "Maha Makutaraj Wittayalai" to honor His Majesty King Mongkut Wat Bowon Niwet Vihara By means of modern education management It is different from traditional Pali learning. In the meantime also adopted the first written measurement method in Thailand
After Somdej Phra Maha Monastery Krom Phra Yao Chirayan Warorot Has established this educational institution His Majesty King Chulalongkorn gave a speech to help him improve the Pali language school named "Mahathat Wittayalai" inside Wat Mahathat to become "Maha Chulalongkornrajavidyalaya" to organize the Mahanikai monks to have institutions. Higher education in the same way Along with the Mahamakut Wittayalai Which at that time was an institution of higher education And most of them were limited to the Thammayut Sangha. Later, both Mahamakut Rajavidyalaya and Mahachulalongkornrajavidyalaya were closed because of many problems. For many decades
Until Master Sucheep The Princess has tried to revive it. Until successful when the Supreme Patriarch Krom Luang Wachirayanawong and the Sangha of Wat Bowon Niwet Viharn Has given patronage By announcing a new revival in 1945, followed by Mahachulalongkornrajavidyalaya Which announced the revival of the business in 1947, Ajarn Suchep stated that the reason for having a Monastic University is because the Sangha needs to produce personnel who are knowledgeable in modern science, otherwise the Sangha will not be able to teach and advise the villagers. And communication will not be understood because villagers study world cases As for the monks to study the case of dharma He therefore continued to fight for the Sangha University until the Mahamakut Buddhist College and Mahachulalongkornrajavidyalaya were restored once again. Until being raised as a state autonomous university in the year 2540 in the period of Mr. Sukwich Rangsit Phon is the Minister of Education. has proposed to the National Assembly to enact According to the Mahamakut University Act, B.E. 2540, as a result of His Majesty's unremitting dedication and determination, this reason has made the younger generations praise. "Ajarn Suchep Punyanupar" is the father of Thai Sangha University.
To commemorate your contributions and carry on your intentions Faculty of students have jointly established the Punyanuphab Foundation. Raised with your approval to provide scholarships to support students or teachers who research Buddhism at Mahamakut Wittayalai University. And continue to operate until now
Present Mahamakut Wittayalai University Has moved the location of the university to Salaya Subdistrict Phutthamonthon District Nakhon Pathom province already.
|
|
R
|
Rajapradith WAT on Google
★ ★ ★ ★ ★ บัณฑิตวิทยาลัย มมร
มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นสถาบันการศึกษาของสงฆ์ ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ของประเทศไทย ที่จัดการศึกษาในรูปแบบมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา เป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกที่เริ่มประยุกต์หลักพระพุทธศาสนาให้เข้ากับสังคมสมัยใหม่ โดยมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ หนึ่งในสองแห่งของประเทศไทย
ประวัติความเป็นมา
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ซึ่งเป็นพระน้องยาเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระดำริจัดตั้ง "มหามกุฏราชวิทยาลัย" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นภายใน วัดบวรนิเวศวิหาร โดยวิธีจัดการศึกษาแบบสมัยใหม่ มีลักษณะแตกต่างจากการเล่าเรียนภาษาบาลีตามประเพณีแบบเดิม ในขณะเดียวกัน ก็นำเอาวิธีวัดผลแบบข้อเขียนมาใช้เป็นแห่งแรกของประเทศไทยด้วย
หลังจากที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ทรงก่อตั้งสถาบันการศึกษานี้ขึ้นแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็มีพระราชดำรัสให้พระองค์ทรงช่วยปรับปรุงโรงเรียนสอนภาษาบาลี ชื่อ "มหาธาตุวิทยาลัย" ภายในวัดมหาธาตุ ขึ้นเป็น "มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย" เพื่อจัดการให้คณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกายได้มีสถาบันการศึกษาชั้นสูงในลักษณะเดียวกัน ควบคู่ไปกับมหามกุฏราชวิทยาลัย ซึ่งสมัยนั้นเป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูง และส่วนมากยังจำกัดอยู่แต่คณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต ต่อมา ทั้ง มหามกุฏราชวิทยาลัยและมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้ปิดตายลงเพราะประสบปัญหาหลายประการด้วยกัน นับเป็นเวลาหลายสิบปี
จนกระทั่ง ท่านอาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพได้พยายามรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ จนประสบผลสำเร็จ เมื่อ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์และคณะสงฆ์วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ให้การอุปถัมภ์ โดยได้ทำการประกาศรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่เมื่อ พ.ศ. 2488 ตามมาด้วย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งประกาศรื้อฟื้นกิจการในปี พ.ศ. 2490 อาจารย์สุชีพ ได้แถลงว่า สาเหตุที่ต้องมีมหาวิทยาลัยสงฆ์ก็เพราะคณะสงฆ์จำเป็นต้องผลิตบุคลากรที่รู้ทันวิชาการสมัยใหม่ มิฉะนั้น คณะสงฆ์จะไม่สามารถสั่งสอนแนะนำชาวบ้านได้ และการสื่อสารกันก็จะเกิดความไม่เข้าใจ เพราะชาวบ้านศึกษาด้านคดีโลก ส่วนพระสงฆ์ศึกษาด้านคดีธรรม ท่านจึงต่อสู้เพื่อให้ได้มหาวิทยาลัยสงฆ์มาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุด มหามกุฏราชวิทยาลัย และ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยก็ได้รับการรื้อฟื้นมาอีกครั้งหนึ่ง จนได้รับการยกฐานะให้เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐในปี พ.ศ. 2540 ในสมัยนายสุขวิช รังสิตพลเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เสนอให้รัฐสภาตรา ตามความในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ. 2540 อันเป็นผลพวงมาจากการทุ่มเทและความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งของท่านฯ อย่างแท้จริง เหตุผลนี้ ทำให้คนรุ่นหลังกล่าวยกย่อง "อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ" ว่าเป็น บิดาแห่งมหาวิทยาลัยสงฆ์ไทย
เพื่อรำลึกถึงคุณูปการของท่านและสืบสานเจตนารมณ์ของท่าน คณะศิษยานุศิษย์ได้ร่วมกันก่อตั้งมูลนิธิปุญญานุภาพ ขึ้นโดยความเห็นชอบของท่านเพื่อให้ทุนสนับสนุนนักศึกษาหรือครูอาจารย์ผู้ค้นคว้าวิจัยทางพระพุทธศาสนา ณ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย และดำเนินกิจการต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ได้ย้ายที่ตั้งของมหาวิทยาลัยไปยังตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐมแล้ว
Graduate School, Mahidol University
Mahamakut Buddhist University Is an educational institution of monks The Dharma Sect Division of Thailand that provides a Buddhist university education. It was the first educational institute to apply the principles of Buddhism to modern society. By Mahamakut Buddhist University Is a monastic university One of two locations in Thailand
History
Somdej Phra Maha Monastery Krom Phraya Wachirayanawarorot Which is the younger sister drug in His Majesty King Chulalongkorn has set up the idea "Maha Makut Rajawattana" in honor of His Majesty King Mongkut Wat Bowon Niwet Vihara By means of modern education management It is different from traditional Pali learning. In the meantime Also adopted the first written measurement method in Thailand
After Somdej Phra Maha Monastery Krom Phraya Wachirayanawarorot Has established this educational institution His Majesty King Chulalongkorn gave a speech to help him improve the Pali language school named "Mahathat Wittayalai" inside Wat Mahathat to become "Maha Chulalongkornrajavidyalaya" to organize the Mahanikai monks to have institutions. Higher education in the same way Along with Mahamakut Buddhist College Which at that time was an institution of higher education And most of them remained limited to the Thammayut Sangha. Later, both Mahamakut Rachalai and Maha Chulalongkornrajavidyalaya were closed because of many problems. For many decades
Until Master Sucheep The Princess has tried to revive it. Until successful when the Supreme Patriarch Krom Luang Wachirayanawong and the Sangha of Wat Bowon Niwet Viharn Has given patronage By announcing a new revival in 1945, followed by Mahachulalongkornrajavidyalaya Which announced the resurgence of the business in 1947. Prof. Sujeep stated that the reason for the need to have a Sangha University is because the Sangha needs to produce personnel who know modern science, otherwise the Sangha will not be able to teach and introduce villagers And communication will not be understood Because the villagers studied the world case As for the monks to study the case of dharma He therefore continued to fight to obtain a monastic university until finally Mahamakut Wittayalai and Mahachulalongkornrajavidyalaya were revived once again. Until being raised as a state autonomous university in the year 2540 in the period of Mr. Sukwich Rangsit Phon is the Minister of Education. Has proposed the parliament to enact According to the Mahamakut Buddhist University Act B.E. 2540, as a result of his truly relentless dedication and commitment, this reason has made the future generations praised. "Ajarn Sucheep Punyanuphab" is the father of the Thai Sangha University.
To commemorate your contributions and carry on your intentions Faculty of students have jointly established the Punyanuphab Foundation. It was established with your approval to fund students or teachers who research Buddhism at Mahamakut Buddhist University. and continues to operate until the present
Currently, Mahamakut Buddhist University Has moved the location of the university to Salaya Sub-district Phutthamonthon District Nakhon Pathom province already.
|
|
น
|
นราธิ สาระทัย on Google
★ ★ ★ ★ ★ บัณฑิตวิทยาลัย มมร
มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นสถาบันการศึกษาของสงฆ์ ฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ของประเทศไทย ที่จัดการศึกษาในรูปแบบมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา เป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกที่เริ่มประยุกต์หลักพระพุทธศาสนาให้เข้ากับสังคมสมัยใหม่ โดยมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ หนึ่งในสองแห่งของประเทศไทย
ประวัติความเป็นมา
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ซึ่งเป็นพระน้องยาเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระดำริจัดตั้ง "มหามกุฏราชวิทยาลัย" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นภายใน วัดบวรนิเวศวิหาร โดยวิธีจัดการศึกษาแบบสมัยใหม่ มีลักษณะแตกต่างจากการเล่าเรียนภาษาบาลีตามประเพณีแบบเดิม ในขณะเดียวกัน ก็นำเอาวิธีวัดผลแบบข้อเขียนมาใช้เป็นแห่งแรกของประเทศไทยด้วย
หลังจากที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ทรงก่อตั้งสถาบันการศึกษานี้ขึ้นแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็มีพระราชดำรัสให้พระองค์ทรงช่วยปรับปรุงโรงเรียนสอนภาษาบาลี ชื่อ "มหาธาตุวิทยาลัย" ภายในวัดมหาธาตุ ขึ้นเป็น "มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย" เพื่อจัดการให้คณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกายได้มีสถาบันการศึกษาชั้นสูงในลักษณะเดียวกัน ควบคู่ไปกับมหามกุฏราชวิทยาลัย ซึ่งสมัยนั้นเป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูง และส่วนมากยังจำกัดอยู่แต่คณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต ต่อมา ทั้ง มหามกุฏราชวิทยาลัยและมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้ปิดตายลงเพราะประสบปัญหาหลายประการด้วยกัน นับเป็นเวลาหลายสิบปี
จนกระทั่ง ท่านอาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพได้พยายามรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ จนประสบผลสำเร็จ เมื่อ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์และคณะสงฆ์วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ให้การอุปถัมภ์ โดยได้ทำการประกาศรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่เมื่อ พ.ศ. 2488 ตามมาด้วย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งประกาศรื้อฟื้นกิจการในปี พ.ศ. 2490 อาจารย์สุชีพ ได้แถลงว่า สาเหตุที่ต้องมีมหาวิทยาลัยสงฆ์ก็เพราะคณะสงฆ์จำเป็นต้องผลิตบุคลากรที่รู้ทันวิชาการสมัยใหม่ มิฉะนั้น คณะสงฆ์จะไม่สามารถสั่งสอนแนะนำชาวบ้านได้ และการสื่อสารกันก็จะเกิดความไม่เข้าใจ เพราะชาวบ้านศึกษาด้านคดีโลก ส่วนพระสงฆ์ศึกษาด้านคดีธรรม ท่านจึงต่อสู้เพื่อให้ได้มหาวิทยาลัยสงฆ์มาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุด มหามกุฏราชวิทยาลัย และ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยก็ได้รับการรื้อฟื้นมาอีกครั้งหนึ่ง จนได้รับการยกฐานะให้เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐในปี พ.ศ. 2540 ในสมัยนายสุขวิช รังสิตพลเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เสนอให้รัฐสภาตรา ตามความในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ. 2540 อันเป็นผลพวงมาจากการทุ่มเทและความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งของท่านฯ อย่างแท้จริง เหตุผลนี้ ทำให้คนรุ่นหลังกล่าวยกย่อง "อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ" ว่าเป็น บิดาแห่งมหาวิทยาลัยสงฆ์ไทย
เพื่อรำลึกถึงคุณูปการของท่านและสืบสานเจตนารมณ์ของท่าน คณะศิษยานุศิษย์ได้ร่วมกันก่อตั้งมูลนิธิปุญญานุภาพ ขึ้นโดยความเห็นชอบของท่านเพื่อให้ทุนสนับสนุนนักศึกษาหรือครูอาจารย์ผู้ค้นคว้าวิจัยทางพระพุทธศาสนา ณ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย และดำเนินกิจการต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ได้ย้ายที่ตั้งของมหาวิทยาลัยไปยังตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐมแล้ว
Graduate School, Mahidol University
Mahamakut Buddhist University Is an educational institution of monks The Dharma Sect Division of Thailand that provides a Buddhist university education. It was the first educational institute to apply the principles of Buddhism to modern society. By Mahamakut Buddhist University Is a monastic university One of two locations in Thailand
History
Somdej Phra Maha Monastery Krom Phraya Wachirayanawarorot Which is the younger sister drug in His Majesty King Chulalongkorn has set up the idea "Maha Makut Rajawattana" in honor of His Majesty King Mongkut Wat Bowon Niwet Vihara By means of modern education management It is different from traditional Pali learning. In the meantime Also adopted the first written measurement method in Thailand
After Somdej Phra Maha Monastery Krom Phraya Wachirayanawarorot Has established this educational institution His Majesty King Chulalongkorn gave a speech to help him improve the Pali language school named "Mahathat Wittayalai" inside Wat Mahathat to become "Maha Chulalongkornrajavidyalaya" to organize the Mahanikai monks to have institutions. Higher education in the same way Along with Mahamakut Buddhist College Which at that time was an institution of higher education And most of them remained limited to the Thammayut Sangha. Later, both Mahamakut Rachalai and Maha Chulalongkornrajavidyalaya were closed because of many problems. For many decades
Until Master Sucheep The Princess has tried to revive it. Until successful when the Supreme Patriarch Krom Luang Wachirayanawong and the Sangha of Wat Bowon Niwet Viharn Has given patronage By announcing a new revival in 1945, followed by Mahachulalongkornrajavidyalaya Which announced the resurgence of the business in 1947. Prof. Sujeep stated that the reason for the need to have a Sangha University is because the Sangha needs to produce personnel who know modern science, otherwise the Sangha will not be able to teach and introduce villagers And communication will not be understood Because the villagers studied the world case As for the monks to study the case of dharma He therefore continued to fight to obtain a monastic university until finally Mahamakut Wittayalai and Mahachulalongkornrajavidyalaya were revived once again. Until being raised as a state autonomous university in the year 2540 in the period of Mr. Sukwich Rangsit Phon is the Minister of Education. Has proposed the parliament to enact According to the Mahamakut Buddhist University Act B.E. 2540, as a result of his truly relentless dedication and commitment, this reason has made the future generations praised. "Ajarn Sucheep Punyanuphab" is the father of the Thai Sangha University.
To commemorate your contributions and carry on your intentions Faculty of students have jointly established the Punyanuphab Foundation. It was established with your approval to fund students or teachers who research Buddhism at Mahamakut Buddhist University. and continues to operate until the present
Currently, Mahamakut Buddhist University Has moved the location of the university to Salaya Sub-district Phutthamonthon District Nakhon Pathom province already.
|
Write some of your reviews for the company บัณฑิตวิทยาลัย มมร
Your reviews will be very helpful to other customers in finding and evaluating information
Nearby places in the field of University,
Nearby places บัณฑิตวิทยาลัย มมร
